
วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2561
วันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2561
ลักษณะไก่ดี-ไม่ดี
ลักษณะไก่พม่าที่ไม่ควรเลี้ยง
1. ใจเสาะ คือประเภทหนีง่าย ๆ อันนี้ควรต้มก่อนสายพันธุ์อื่น
2. สู้ไก่ช้า อันนี้ก็ไม่น่าเลี้ยง แต่ถ้าเก่งจริง ๆ ก็พอให้อภัย
3. กระดูกบางเจ้าเนื้อ คือบางสายเจ้าเนื้อมากอ้วนง่าย เนื้อหนังขาว ๆ จับดูมีแต่เนื้อ อันนี้ก็ควรแกงใส่หน่อไม้ส้มครับอร่อยดี เพราะมันเลี้ยงยาก
4. ม่าแบบบินล้ม ไม่เก็บปีกเก็บหาง อันนี้ก็ควรต้มก่อนครับ บางตัวบินสองสามทีปีกคลี่คลุมดิน และไม่ยอมยกปีกเก็บปีกด้วย
5. ไก่พม่าที่ขนน้อยสร้อยสั้น ประเภทปีกสั้นสร้อยคอไม่มีสร้อยระย้าไม่เยอะ ก็ไม่ควรเลี้ยงครับยกเว้นพวกลูกผสม
6. ไก่ที่ไม่เคยชนะไก่เลย หรือชนะไก่ยากมาก เลี้ยงเหมือนจะดี เอาไปชนเสมอกับแพ้ แบบนี้รีบต้มยกเล้า
7. ไก่ที่ไม่เคยชนแพงเลยในตระกูล รุ่นทวด รุ่นปู่ รุ่นลูก รุ่นหลาน รุ่นเหลน รุ่นแล้วรุ่นเล่าได้แต่เฝ้ารอแบบนี้ก็ต้มครับ เขาเรียกว่าไก่ไม่มีตระกูล..
8. พวกอุ้งหนาเท้า่หน่อ..อันนี้ก็ไม่ควรเลี้ยงมันดูแลยากครับไม่เหมาะทำสายพันธุ์
ลักษณะไก่พม่าที่ควรเลี้้ยง
1. สังเกตจากความเปรียว
ต้องมีความเปรียว เปรียวในที่นี้คือหมายถึงเปรียวแบบนักเลง มีความดุอยู่ในตัว ไม่ใช่เปรียวแบบไก่ที่ตื่นกลัวแบบขนหัวตั้ง หรือวิ่งๆ มองๆ ชำเลืองดูเราอยู่บ่อยๆ หรือตลอดเวลา และประเภทที่เปรียวแบบวิ่งหน้าตั้งส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยเก่งสักเท่าไรนัก ไก่พม่าส่วนใหญ่นิสัยจะไม่ค่อยเชื่อง ถ้าเจอไก่พม่าที่มีนิสัยเชื่องๆ แสดงว่าไม่ใช่ไก่พม่าแท้หรืออาจจะเป็นไก่พม่าลูกผสม
2.สังเกตจากใบหหน้าและดวงตา
ไก่พม่าเก่งๆส่วนใหญ่ใบหน้ามักจะออกกลมๆ รวมทั้งมีดวงตาที่กลม แววตาสดใสสวยงาม รวมทั้งมีคิ้วที่สวยงามกำลังดี อีกทั้งดวงตาไก่พม่าที่เก่งๆมักจะมีตาสีขาวเป็นส่วนใหญ่ ถ้าใบหน้าเล็กๆแหลมๆส่วนมากมักจะมีนิสัยที่ค่อนข้างขี้น้อยใจ
3.สังเกตจากหงอน
ไก่พม่าที่เก่งส่วนใหญ่หงอนจะเป็นแบบ หงอนหมูบ หงอนชี้ หงอนแบบพญานาค หรือหัวจุก
4.สังเกตจากหน้าแข้ง
ไก่พม่าที่แข้งเล็กแห้งมักจะมีความรวดเร็วและความคล่องแคล่วในการตี และตีเจ็บมากกว่าพวกแข้งเปียก แต่ข้อเสียของพวกแข้งเล็กมักจะมีปัญหายืนดินไม่ดีกล้ามเนื้อน้อย ความหนักในการตียังสู้พวกแข้งใหญ่ไม่ได้ และพวกแข้งใหญ่สามารถยืนบนดินได้ดีไม่มีปัญหาเหมือนพวกแข้งเล็ก นอกจากนนี้ยังมีลักษณะแข้งที่ตรงกับตำราไทยอีกหลายแบบ เช่นมีเกล็ดพิฆาต มีแข้งหลังเต็มนูน มีเกล็ดบัวหลังยาว ๆ ฯลฯ พวกที่เกล็ดเรียบ ๆ มีเกล็ดแข้งสวย ๆ ส่วนมากจะเก่ง เช่นสองแถวปัดตลอด สามแถวเป็นระเบียบ ขอให้แข้งกลมเล็ก เดือยงาม ส่วนมากจะเก่ง
5.สังเกตจากกล้ามเนื้อ
พยายามเลือกไก่พม่าที่เนื้อแน่น ถ้าจับดูแล้วเนื้อนิ่มๆ เหลวๆ ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเก่งเท่าไรนัก
วันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2561
การดูลักษณะไก่ชนพม่า
เริ่มต้นคัดเลือกไก่พม่า
นอกจากดูฝีเท้าแล้ว ไก่พม่าก็มีสกุลเหมือนกับไก่ไทย เพียงแต่คนไม่ค่อยใส่ใจ เพราะสกุลไก่พม่าไม่ค่อยชัดเจน
1.หางกระดก อกตั้ง ลักษณะลำตัวกลม จับไม่ค่อยยาว หางพัดค่อนข้างจะก้านใหญ่ หางกระรวยกระดกโค้งลงพองาม แต่ถ้าหางกระรวยพุ่งยาวแหลม ให้สันนิษฐานว่าเป็นพม่าลูกผสม ปีกต้องยาว สร้อยคอประบ่า สร้อยระย้าต้องเยอะ ประเภทขนน้อยสร้อยสั้นคือลักษณะไม่ดี
นอกจากดูฝีเท้าแล้ว ไก่พม่าก็มีสกุลเหมือนกับไก่ไทย เพียงแต่คนไม่ค่อยใส่ใจ เพราะสกุลไก่พม่าไม่ค่อยชัดเจน
1.หางกระดก อกตั้ง ลักษณะลำตัวกลม จับไม่ค่อยยาว หางพัดค่อนข้างจะก้านใหญ่ หางกระรวยกระดกโค้งลงพองาม แต่ถ้าหางกระรวยพุ่งยาวแหลม ให้สันนิษฐานว่าเป็นพม่าลูกผสม ปีกต้องยาว สร้อยคอประบ่า สร้อยระย้าต้องเยอะ ประเภทขนน้อยสร้อยสั้นคือลักษณะไม่ดี
2.แข้งเล็กเกล็ดบาง การคัดเลือกไก่พม่าเลือดสูงคนมักจะไม่ค่อยดูเกล็ดแข้ง แต่จะให้ความสำคัญกับ สีแข้ง สีเล็บ สีปาก สีเดือย เป็นหลัก ไก่พม่าเลือดสูงที่ดี สีแข้ง เล็บ ปาก เดือย และ ตา ต้องเป็นสีเดียวกัน แข้งกลมเล็ก เดือยชิด สีแข้งที่นิยม ได้แก่ สีดำ สีมรกต สีตะกั่ว เหลืองอมขาว เป็นต้น หากแข้งเล็กเกล็ดแห้ง ถือว่าดี
3.ตากลอกหงอนตั้ง ไก่พม่าเลือดสูง ตาจะไม่ลึก ดวงตาจะสดใสลอยกลอกกลิ้งเป็นประกาย สายตาว่องไวลอกแลก หงอนก็เป็นจุดเด่นอีกอย่างนึง พม่าเลือดเข้มที่ดี หงอนต้องชี้ตั้ง หงอนหมูบ หงอนพญานาค หรือหงอนแจ้ หงอนชบาคางเคราก็ถือว่าดี
4. นิสัยไก่หรือลิง ไก่พม่าเลือดสูงจะเปรียวมากชอบนอนที่สูงไม่ชอบให้ใครอยู่สูงกว่า เลี้ยงเชื่องแค่ไหนเวลาจะจับก็จะเล่นตัวเอียงหนี ชำเลืองมองแบบมีเชิงหากจับแล้ววิ่งหนีหน้าตั้งหัวซุกกอหญ้า ร้องออกปากขนหัวลุกพองไม่ควรเลี้ยง
วันพฤหัสบดีที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2561
การออกกำลังกาย
วิธีการออกกำลังกายไก่ชนพม่า
การวิ่งสุ่ม สำหรับการวิ่งสุ่มไก่นั้น น่าจะเป็นวิธีที่คนส่วนใหญ่ใช้ งานกัน เพราะเป็นวิธีที่ง่าย ไม่ต้องทำอะไรมาก ก็แค่หาสุ่มเวียนไก่มา 1 หลัง แล้วนำไก่ตัวที่ใจดีๆ หยอกไก่ดีๆ ใส่เข้าไปในสุ่มเวียน แล้วหลังจากนั้น ก็เอาไก่ ตัวที่เลี้ยงออกชน ให้มันหลอกล่อ และก็วิ่งๆ เพื่อพยายามเข้าไปตีตัวข้างใน คน เลี้ยงก็นั่งรอเวลาอย่างเดียว
ประโยชน์ จะทำให้ไก่ออกกำลังกายโดยเป็นธรรมชาติ ไม่ฝืนไก่ ส่วนตัวไก่นั้นจะได้ประโยชน์ทางด้านกล้ามขา ทำให้ขาแข็งแรง ฝึกระบบ หายใจของไก่ อีกทั้งยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับไก่มากยิ่งขึ้น
หลักการวิ่งสุ่ม ควรออกกำลังกายไก่ชนตอนเช้า กับ ตอนเย็น ใช้ เวลาวิ่งสุ่มประมาณ 15-20 นาที
การบินหลุมหรือโดดกล่อง สำหรับวิธีนี้นั้นมีอุปกรณ์การทำมาก มาย ไม่ว่าจะเป็น ท่อ ยางรถ กระเบื้อง ไม้ และอื่นๆอีกมากมาย แล้วแต่ผู้ใช้ งานจะนำมาสร้างเป็นกล่องหรือหลุม และการสร้างนั้น เราก็จะทำขนาดความ กว้าง 1 เมตร ความสูงไม่ตายตัว แต่สำหรับผม ขนาดเท่าหน้าอกของตัวเจ้า ของ
การใช้งาน ก็ไม่ยาก นำไก่โยนลงก้นหลุมแล้วรอให้ไก่บินขึ้นมา ถ้าไก่ไม่บินเราก็ใช้ไม้แหย่ไก่
ประโยชน์ ทำให้ไก่บินเก่งเป็นการฝึกกล้ามเนื้อขาและปีกไปใน ตัว
แนะนำ สำหรับการบินหลุมนั้น เป็นเหมือนการบังคับไก่ให้ออก กำลังกาย โดยที่เราไม่รู้ว่า เราทำแบบนี้ทุกวัน ไก่อาจจะเกิดการล่า กล้ามเนื้อ ฉีก อักเสบ ก่อนเวลาออกไปชนเราต้องพักก่อนจากการบินหลุมไว้ประมาณ 20 วัน อย่างต่ำๆ
การล่อเป้า สำหรับวิธีนี้ เป็นวิธีที่ใช้กันมาตั้งแต่โบราณ จนถึง ปัจจุบัน และปัจจุบันนี้ก็ได้พัฒนาสร้างไก่ล่อเป้าปลอมหลากหลายรูปแบบแทน การใช้ไก่จริงๆล่อเป้า แต่ถามว่า ผลที่ได้เหมือนกันไหม ผมตอบว่า ไม่เหมือนกัน ไก่ปลอมคือไก่อยู่นิ่งๆ ไม่ทำอะไรไก่ชนเราก็ได้แต่จับเตะอย่างเดียว จะทำให้ ขาดประโยขน์ที่ได้บางส่วนไป
การใช้งาน ปัจจุบันจะมีกระเป๋าเอาไว้ใส่ไก่ล่อเป้า ถ้าใครไม่อยาก ให้ไก่ล่อเจ็บ หรือ เราเจ็บมือ ก็หาซื้อมาใส่ให้ไก่ล่อได้เลย การล่อเป้านั้นก็ไม่ ยาก เราก็หลอกล่อไก่ชนที่เราเลี้ยง โดยการให้ไก่จับเตะ ฝึกบืน พาวิ่ง หลอกล่อ ทำอะไรก็ได้ตามที่เราต้องการได้เลย
ประโยชน์ ฝึกความคล่องตัว ฝึกนิสัย การไล่ตีคู่ต่อสู้รู้จักใช้ปาก และสายตา ฝึกหลบหลีก เป็นการยั่วยุให้ไก่ดุ และได้ใจ การฝึกโดยวิธีนี้จะทำให้ ไก่หลักไม่บอบช้ำ
การโยนเบาะ เป็นวิธีที่จะทำให้ไก่ได้ออกกำลังปีกกำลังขา จะทำ ให้ปีกแข็งแรง เดินดี ตีแม่น บินดี
การใช้งาน ควรหาพวกที่นอนเก่าๆ หรือ เบาะอะไรหนาๆ กันไก่ ตกลงมา ก้อยหัก ข้อเคล็ด ส่วนตัวเรานั้น หาเก้าอี้เล็กๆสักตัวเอาไว้นั้ง การ โยนนั้น ทำได้โดยหงายมือซ้ายในลักษณะแบมือพยุงหน้าอกไก่ไว้ มือขวาคว่ำ จับตรงโคนหางไก่เอาไว้จังหวะแรกมือซ้ายดันหน้าอกไก่โยนขึ้นให้ลอยพร้อม มือขวากดหางไก่ไว้ไก่จะลอยตัวขึ้นพร้อมกางปีกพยุงตัวซอยขาเพื่อเตรียมยืด สำหรับวิธีนี้ สามารถทำได้ในท่านั้ง หรือท่ายืน
หลังการใช้งาน สำหรับวิธีโยนเบาะ เราต้องเริ่มจากน้อยๆ ค่อยๆ ขยับไปทีล่ะน้อย เริ่มจาก สองวันแรกอาจจะ 20 ที หลังจากนั้น ก็เริ่มขยับไปทีล่ะ 10 จนถึง 100 หรือเอาพอที่ไก่ไหว ถ้าวันไหนโยนแล้ว ไก่ขาอ่อนเซไปเซมา ก็ พักก่อน ทำไปเรื่อยๆ จนไก่ตกลงมาแล้วรู้สึกว่า ยืนแล้วไม่ล้ม พอทำไปสักระยะ รู้ว่าไก่ได้ที่ล่ะ ก็ทำการพักไก่ได้ ถ้าไม่พักไก่อาจจะเสียไก่ เพราะวิธีนี้ อาจจะทำให้กล้ามเนื้อฉีก เกิดการอักเสบได้ ต้องพักสัก 15-20 วัน
การเตะมุ้ง สำหรับวิธีนี้ น่าจะใช้ดีสำหรับ ไก่พม่า เพราะไก่พม่า จะมีแข้งเปล่า เตะบ่อยครั้ง แต่การเตะมุ้งนั้น ข้อระวังก็คือ เรื่องการได้รับการ บาดเจ็บของเล็บ เดือย แข้งไก่ ควรป้องกันให้ดีๆ มิฉะนั้นจะเสียไก่ได้
หลักการใช้งาน สำหรับมุ้งไก่ ปัจจุบันก็มีการผลิตออกมาจำหน่าย หรือ ใครทำเองได้ก็สามารถทำเองได้ ไม่ยาก อันดับแรกก็หามุ้ง ไก่มาแขวนไว้ที่แข็งแรง ป้องกันการตกหล่น หลังจากนั้น ก็หาไก่สักตัว ที่ หลอกล่อดีๆ เอาใส่ไว้ข้างในมุ้ง และก็ให้ไก่ที่เราเลี้ยงชน อยู่นอกมุ้ง คอยสาด แข้งเตะไปเรื่อยๆ ตามกำลังของไก่
ประโยชน์ จะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เพิ่มอันตราการเตะแข้ง เปล่าให้เตะมากกว่าเดิม เพิ่มการสปริงตัว
สำหรับวิธี การออกกำลังกายไก่ชนนั้น ทุกวิธีล้วนมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป สำหรับผู้ เลี้ยงไก่ออกชนแล้ว ก็ควรเลือกวิธีที่เหมาะสมกับไก่ตัวที่เราเลี้ยงออกชนล่ะกัน
ประโยชน์ จะทำให้ไก่ออกกำลังกายโดยเป็นธรรมชาติ ไม่ฝืนไก่ ส่วนตัวไก่นั้นจะได้ประโยชน์ทางด้านกล้ามขา ทำให้ขาแข็งแรง ฝึกระบบ หายใจของไก่ อีกทั้งยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับไก่มากยิ่งขึ้น
หลักการวิ่งสุ่ม ควรออกกำลังกายไก่ชนตอนเช้า กับ ตอนเย็น ใช้ เวลาวิ่งสุ่มประมาณ 15-20 นาที

การบินหลุมหรือโดดกล่อง สำหรับวิธีนี้นั้นมีอุปกรณ์การทำมาก มาย ไม่ว่าจะเป็น ท่อ ยางรถ กระเบื้อง ไม้ และอื่นๆอีกมากมาย แล้วแต่ผู้ใช้ งานจะนำมาสร้างเป็นกล่องหรือหลุม และการสร้างนั้น เราก็จะทำขนาดความ กว้าง 1 เมตร ความสูงไม่ตายตัว แต่สำหรับผม ขนาดเท่าหน้าอกของตัวเจ้า ของ
การใช้งาน ก็ไม่ยาก นำไก่โยนลงก้นหลุมแล้วรอให้ไก่บินขึ้นมา ถ้าไก่ไม่บินเราก็ใช้ไม้แหย่ไก่
ประโยชน์ ทำให้ไก่บินเก่งเป็นการฝึกกล้ามเนื้อขาและปีกไปใน ตัว
แนะนำ สำหรับการบินหลุมนั้น เป็นเหมือนการบังคับไก่ให้ออก กำลังกาย โดยที่เราไม่รู้ว่า เราทำแบบนี้ทุกวัน ไก่อาจจะเกิดการล่า กล้ามเนื้อ ฉีก อักเสบ ก่อนเวลาออกไปชนเราต้องพักก่อนจากการบินหลุมไว้ประมาณ 20 วัน อย่างต่ำๆ

การล่อเป้า สำหรับวิธีนี้ เป็นวิธีที่ใช้กันมาตั้งแต่โบราณ จนถึง ปัจจุบัน และปัจจุบันนี้ก็ได้พัฒนาสร้างไก่ล่อเป้าปลอมหลากหลายรูปแบบแทน การใช้ไก่จริงๆล่อเป้า แต่ถามว่า ผลที่ได้เหมือนกันไหม ผมตอบว่า ไม่เหมือนกัน ไก่ปลอมคือไก่อยู่นิ่งๆ ไม่ทำอะไรไก่ชนเราก็ได้แต่จับเตะอย่างเดียว จะทำให้ ขาดประโยขน์ที่ได้บางส่วนไป
การใช้งาน ปัจจุบันจะมีกระเป๋าเอาไว้ใส่ไก่ล่อเป้า ถ้าใครไม่อยาก ให้ไก่ล่อเจ็บ หรือ เราเจ็บมือ ก็หาซื้อมาใส่ให้ไก่ล่อได้เลย การล่อเป้านั้นก็ไม่ ยาก เราก็หลอกล่อไก่ชนที่เราเลี้ยง โดยการให้ไก่จับเตะ ฝึกบืน พาวิ่ง หลอกล่อ ทำอะไรก็ได้ตามที่เราต้องการได้เลย
ประโยชน์ ฝึกความคล่องตัว ฝึกนิสัย การไล่ตีคู่ต่อสู้รู้จักใช้ปาก และสายตา ฝึกหลบหลีก เป็นการยั่วยุให้ไก่ดุ และได้ใจ การฝึกโดยวิธีนี้จะทำให้ ไก่หลักไม่บอบช้ำ
การโยนเบาะ เป็นวิธีที่จะทำให้ไก่ได้ออกกำลังปีกกำลังขา จะทำ ให้ปีกแข็งแรง เดินดี ตีแม่น บินดี
การใช้งาน ควรหาพวกที่นอนเก่าๆ หรือ เบาะอะไรหนาๆ กันไก่ ตกลงมา ก้อยหัก ข้อเคล็ด ส่วนตัวเรานั้น หาเก้าอี้เล็กๆสักตัวเอาไว้นั้ง การ โยนนั้น ทำได้โดยหงายมือซ้ายในลักษณะแบมือพยุงหน้าอกไก่ไว้ มือขวาคว่ำ จับตรงโคนหางไก่เอาไว้จังหวะแรกมือซ้ายดันหน้าอกไก่โยนขึ้นให้ลอยพร้อม มือขวากดหางไก่ไว้ไก่จะลอยตัวขึ้นพร้อมกางปีกพยุงตัวซอยขาเพื่อเตรียมยืด สำหรับวิธีนี้ สามารถทำได้ในท่านั้ง หรือท่ายืน
หลังการใช้งาน สำหรับวิธีโยนเบาะ เราต้องเริ่มจากน้อยๆ ค่อยๆ ขยับไปทีล่ะน้อย เริ่มจาก สองวันแรกอาจจะ 20 ที หลังจากนั้น ก็เริ่มขยับไปทีล่ะ 10 จนถึง 100 หรือเอาพอที่ไก่ไหว ถ้าวันไหนโยนแล้ว ไก่ขาอ่อนเซไปเซมา ก็ พักก่อน ทำไปเรื่อยๆ จนไก่ตกลงมาแล้วรู้สึกว่า ยืนแล้วไม่ล้ม พอทำไปสักระยะ รู้ว่าไก่ได้ที่ล่ะ ก็ทำการพักไก่ได้ ถ้าไม่พักไก่อาจจะเสียไก่ เพราะวิธีนี้ อาจจะทำให้กล้ามเนื้อฉีก เกิดการอักเสบได้ ต้องพักสัก 15-20 วัน

การเตะมุ้ง สำหรับวิธีนี้ น่าจะใช้ดีสำหรับ ไก่พม่า เพราะไก่พม่า จะมีแข้งเปล่า เตะบ่อยครั้ง แต่การเตะมุ้งนั้น ข้อระวังก็คือ เรื่องการได้รับการ บาดเจ็บของเล็บ เดือย แข้งไก่ ควรป้องกันให้ดีๆ มิฉะนั้นจะเสียไก่ได้
หลักการใช้งาน สำหรับมุ้งไก่ ปัจจุบันก็มีการผลิตออกมาจำหน่าย หรือ ใครทำเองได้ก็สามารถทำเองได้ ไม่ยาก อันดับแรกก็หามุ้ง ไก่มาแขวนไว้ที่แข็งแรง ป้องกันการตกหล่น หลังจากนั้น ก็หาไก่สักตัว ที่ หลอกล่อดีๆ เอาใส่ไว้ข้างในมุ้ง และก็ให้ไก่ที่เราเลี้ยงชน อยู่นอกมุ้ง คอยสาด แข้งเตะไปเรื่อยๆ ตามกำลังของไก่
ประโยชน์ จะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เพิ่มอันตราการเตะแข้ง เปล่าให้เตะมากกว่าเดิม เพิ่มการสปริงตัว
สำหรับวิธี การออกกำลังกายไก่ชนนั้น ทุกวิธีล้วนมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป สำหรับผู้ เลี้ยงไก่ออกชนแล้ว ก็ควรเลือกวิธีที่เหมาะสมกับไก่ตัวที่เราเลี้ยงออกชนล่ะกัน
วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2561
การเลี้ยงไก่พม่า
การเลี้ยงไก่พม่า
เทคนิคการเลี้ยงไก่สายเลือดพม่านั้น เป็น ที่ยอมรับกันในทุกวันนี้ว่า ไก่ที่เลี้ยงออกชนกันตามสนามต่างๆ ทั่ว ประเทศ เป็นไก่ลูกผสมและมีสายเลือดไก่พม่าเกิน 50 %ด้วยกัน ส่วนจะมีเลือดพม่ามากแค่ไหนนั้น บ้างน้อยบ้างมากก็แล้วแต่สูตรของใครของมันว่ากันไป บางคนก็มีสายเลือดพม่าเกิน 50%ขึ้นไปซึ่งส่วนมากจะเก่ง บางคนต่ำกว่า 50 %ลงมา การเลี้ยงไก่พม่าบางตัวก็ดูไม่รู้ว่าเป็นไก่ไทยแท้หรือลูกผสมกันแน่ ไก่พม่าหรือไก่สายเลือดพม่าเดิมทีก็เล่นกันทางภาคเหนือของประเทศ ไทยซะเป็นส่วนใหญ่ เท่าที่ผมรู้เขาเลี้ยงกันไม่นาน ปล้ำ 2-3 ครั้งก็นำออกชนกันแล้ว ไม่ปล้ำมากอันเพราะจะทำให้ไก่ซ้ำ เหมือนการเลี้ยงไก่ทางภาคกลาง กว่าจะออกชนต้องปล้ำไม่น้อยกว่า 8-9 อันขึ้น การเลี้ยงไก่พม่าทางภาคเหนือเขาเลี้ยงกันไม่นานก็ออกชน กะให้แข็งในสังเวียน พอตีไปได้1-2 เที่ยว ไก่ก็เริ่มแข็งและตีราคาแพงได้ ดังนั้นการเลี้ยงไก่พม่าหนุ่มๆ จึงมีสถิติชนะหลายไฟท์ติดต่อกัน เท่า ที่สอบถามคนเลี้ยงไก่พม่าดู เขาบอกว่าถ้าเลี้ยงนานหรือปล้ำมากมันจะ กรอบ ยิ่งฟิตซ้อมหนักจะทำให้ เนื้อตัวของมันตึง ไม่ค่อยตีไก่ ซึ่งตอนแรกๆ ผมก็ไม่เชื่อ แต่จากการเลี้ยงไก่พม่ามาหลายตัว ปรากฏว่าไก่พม่า ตัวที่มีฝีตีนดีๆ พอฟิตจัดเข้ามันจะไม่ค่อยตีไก่ พอปล่อยให้เดินกรง เล่นฝุ่นเล่นดิน จับมาปล้ำใหม่ ปรากฏว่ากลับ ตีดีเหมือนเดิม ซึ่งผมได้ทดลองหลายครั้งหลายตัวก็มีผลคล้ายกัน ดังนั้นเทคนิคการเลี้ยงไก่พม่า ควรทำดังนี้ 1. การออกกำลังกาย ควรให้ปฏิบัติดังนี้ - บินกล่อง - วิ่งสุ่ม - ปล่อยกรงกว้างๆ และมีคอนให้บิน แต่อย่าให้สูงมากนัก 2. การลงนวม ต้องดูนิสัยไก่ บางตัวไม่ชอบและไม่ควรลงนวมบ่อย ให้เหมาะสมควร 7-10 วันต่อครั้ง 3. การล่อ ต้องดูนิสัยไก่ หากไม่จำเป็นจริงๆ เช่นออกกำลังโดยวิธีอื่นไม่เอา จึงค่อยใช้วิธีล่อ เพราะไก่พม่า ไม่ชอบให้คู่ต่อสู้อยู่สูงกว่า 4. การลงขมิ้น หากไม่จำเป็นจริงๆ ก็ไม่ควรลง อาจจะลงครั้งแรกทั้งตัวสัก 1 ครั้ง ก็น่าจะพอ หลังจากนั้น หากยังอยากลงก็ควรทาเฉพาะใบหน้าและหน้าอกก็พอ นอกจากนี้มีข้อควรจำสำหรับการเลี้ยงไก่พม่า หรือไก่ที่มีสายเลือดพม่าตั้งแต่ 50 % ขึ้นไปคือ 1. อย่าปล้ำหรือลงนวมกับคู่ต่อสู้ที่เป็นไก่ถ่าย เพราะหากมันถูกตีเจ็บมันจะเข็ดและพาลดีดไก่ไปเลย 2. อย่าปล้ำหรือซ้อมคู่มากเกินไป 5-6 ยก ก็น่าจะพอ โดยครั้งแรกหาคู่ต่อสู้ใหม่ๆ เหมือนกัน ผิวพรรณดีกว่า อย่าหาญตี มิฉะนั้นอาจต้องมานั่งเสียใจ 3. ไก่พม่า ถ้าหัวปีกเริ่มโรย หรือขนปีกเคลื่อนขยายหรือเริ่มถ่าย หรือขนหมดมัน ไม่ควรนำออกตี เพราะมันจะอยู่ในช่วงเริ่มหลุดถ่าย ใจน้อย และหนีง่าย 4. ไก่พม่า เวลาซ้อมหากเจอคู่ต่อสู้ตีตัว ตีเข้าหน้าอุดสามเหลี่ยมและหนอกคอ ควรรีบจับยอม มิฉะนั้นคราวต่อไปมันจะเข็ดและดีดไก่ เพราะแผลฝาก 5. การเล่นไก่พม่า ควรเล่นในช่วงที่มันกำลังสดและมีอายุชนขวบแล้วดีที่สุด เพราะจิตใจมันจะ มั่นคงกว่าตอนที่เป็นหนุ่ม 8-9 เดือน ไก่พม่าหลักๆก็มีเท่านี้แหละครับ |
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)